English Version Click Flag

อยากเป็นบาริสต้า “ตัวจริง”
ที่ออสเตรเลีย?

ของจริงมันเริ่มหลังจบคลาส

ในยุคที่ใครๆ ก็เล่าเรื่อง “ง่าย” ได้แค่ปลายนิ้ว แต่ในชีวิตจริง… สิ่งที่ง่ายที่สุด อาจกลายเป็น “กับดัก” ที่ทำให้คุณต้องเสียทั้ง เวลา และ โอกาส โดยไม่รู้ตัวก่อนจะเชื่อใครที่บอกว่า “เรียนแป๊บเดียวก็ได้งาน” ลองถามตัวเองก่อนว่า — คุณอยาก “ชงกาแฟได้” หรืออยาก “ได้งานจริง”?

ปัจจุบันทั้งคู่เป็น head barista & Supervisor นิวซีแลนด์ และ ออสเตรเลีย

✅ Step 1:Be Realistic

มองให้ชัดก่อนจะลงสนามจริง “ออสเตรเลียไม่ใช่สนามซ้อม แต่มันคือสนามแข่ง” ร้านกาแฟที่ออส ไม่ได้ “คิวรอวันเปิดฝึกงาน”แต่คือสนามที่ทุกคนต้องเร็ว แม่น ใจเย็น และทำงานเป็นทีมในจังหวะที่ไม่มีใครรอคุณ

ลองดูตัวอย่างจริง:

ที่ร้าน Toby’s Estate ใน Sydney —น้องกระปุก บาริสต้าหญิงตัวเล็ก ต้องรับมือกับเมล็ดกาแฟ 20 กิโล/วัน
ทำงานจริงแบบไม่มีเทคเดียว ต้องเสิร์ฟกาแฟคุณภาพแบบต่อเนื่อง ไม่หยุดคิด ไม่หยุดมือ เพราะร้านออสขายได้วันละ 10 กิโลขึ้นเป็นเรื่องปกติ 🚫 คำพูดอย่าง “ฝึก 20–30 ชั่วโมงก็พอแล้ว”อาจฟังดูง่าย แต่มันไม่จริงสำหรับสนามนี้

 ที่นี่เราไม่ได้ขายฝัน

แต่เราจะพาคุณ “ฝึกให้จริง ฝึกให้จบ” ทีละขั้นจากพื้นฐานถึง workflow เร็ว เสิร์ฟไว สื่อสารคล่อง พร้อมรับมือร้านจริงในออส Tigerjin Australia Barista คือที่เดียวในไทยที่ปั้นคนแบบไม่มโน ถ้าคุณอยากเปลี่ยนตัวเองเป็น “มืออาชีพในสนามจริง” ยินดีต้อนรับเข้าสู่คลาสที่ไม่มีคำว่าฝึกชิลๆ แล้วจบสวย

กระปุกฝึกมาเหมือนหน้างานเลยไม่รน

กลยุทธ์ขายฝันล้ำลึก

ลักษณะคลาสขายฝันโดย AI วิเคราะห์
อ่านต่อ click here

คำวิเคราะห์จาก AI
ถ้าตรง 2-3 ข้อในนี้ก็ให้เราตั้งสติก่อน

อย่าเชื่อเพียงเพราะเขาพูดเพราะมคลาสขายฝันในวงการบาริสต้า และจิตวิทยาที่ใช้ปั่นใจคุณ  ได้งานร้านไหน? ทำอะไรบ้าง? ได้ค่าแรงเท่าไหร่? ใครพูดเรื่องนี้? เขาได้อะไรจากการพูดหรือเปล่า? ทำไมเขามีเวลาตอบบ่อยจัง มันเป็นความมั่นใจจอมปลอมไหม เขาควรกล้าบอกความเสี่ยง กล้าพูดถึงข้อจำกัดกล้าโชว์ภาพการฝึกกล้าพิสูจน์  ฝันได้นะ…แต่ต้องถามให้พอก่อนจะเชื่อ รีวิวดีได้ แต่ต้องรู้ว่ามาจากใคร เชื่อถือได้ไหม สวยได้แต่ต้องมีเนื้อหา อย่าแค่ฟังว่าเขาพูดดี…แต่ดูว่าพูดจริงหรือเปล่า  เพราะคลาสบาริสต้าออสเตรเลีย…มันไม่ใช่แค่ “เรียนสนุก” แต่มันคือ “เดิมพันของชีวิตในต่างแดน

อย่าเป็นเหยื่อ

กลยุทธ์ขายฝัน

☕️ จิตวิทยาที่คลาสขายฝันใช้
     คุณอาจไม่ทันคิด

1. คำพูดที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยเกินจริง
> “พี่มี connection เยอะมาก หางานให้ได้แน่นอน”
“เรียนแค่ไม่กี่วัน ก็ทำงานร้านออสได้เลย”
“รุ่นพี่ทุกคนได้งานหมดเลย ไม่มีใครไม่ได้”
→ เพราะเขารู้ว่า ‘คนที่กำลังเริ่มใหม่’ มักกลัว… และคำว่ามั่นใจช่วยขายได้เสมอ

🎯 ทำไมอันตราย?
เพราะ connection ไม่เท่ากับ guarantee ฝึกแค่ไม่กี่วัน แล้วบอกว่า “พอ” = ทำให้คุณ “ไม่กล้าถามต่อ” ใช้คำว่า “ทุกคน” แต่ไม่มีใครเปิดสถิติจริง

2. รีวิวในกลุ่มปิด: Safe Zone 
>“ทุกคนในกลุ่มเรียนที่นี่หมด” “รีวิวดีมาก ไม่มีใครไม่พอใจเลย”“พี่ๆ ใจดี ให้คำแนะนำฟรีหมด” → เพราะเขารู้ว่า “กลุ่มที่ดูอบอุ่น” จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อ โดยไม่ต้องเช็กอะไรเพิ่ม

🎯 ทำไมอันตราย?
กลุ่มปิดที่คุมเนื้อหา = มีแต่เสียงเดียว ไม่มีคำค้าน ไม่มีใครกล้าตั้งคำถาม เพราะกลัวดู “ขวางโลก” หน้าม้าที่ไม่ได้เรียนเองจริง แต่คอมเมนต์เยอะกว่าใคร

3. ภาพสวย อีเวนต์ดี แต่ฝึกไม่มี
> “คลาสนี้อบอุ่นมาก ทุกคนได้งานหมด” “Open House มีรุ่นพี่มาแชร์เพียบเลย” “มีของแจก งานสวย หรู ดูน่าเชื่อถือมาก”→ เพราะเขารู้ว่า “ภาพความสุข” ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยมากกว่าข้อมูลจริง

🎯 ทำไมอันตราย?
ไม่มีใครพูดถึงการฝึก workflow จริง ไม่มีภาพเบื้องหลังตอนฝึกทำกาแฟ ไม่มีใครบอกว่าใช้เวลาหางานกี่เดือน เพราะ “ถ้าคุณรู้จริง คุณอาจไม่กล้าลงเรียน!”

“กลยุทธ์การชวนเชื่อ” (Persuasive Triggers) 
 ที่หลายที่ใช้ ไม่ใช่แค่ในการโฆษณา แต่ยังรวม
 ถึงบรรยากาศในกลุ่มปิด เพจที่ พยายามชักจูง

🚫กลยุทธ์ “กลุ่มปิด”

• “Safe Zone ปลอม”  “ทุกคนในกลุ่มนี้เรียนที่นี่หมดเลยนะ” “คนส่วนใหญ่เลือก = ใช่เสมอหรือเปล่า? อย่าลืมว่า เสียงส่วนน้อยที่เงียบอาจมีเหตุผลที่เราควรฟัง”
• “มีคนได้งานจากกลุ่มนี้ทุกเดือน” “ได้งานแบบไหน?  Full-time, casual หรือ unpaid trial? ต้องกล้าถามก่อนจะตัดสินใจตาม”
• “รุ่นพี่บอกเองเลยว่าไม่เรียนที่นี่ไม่ได้หรอก”  “รุ่นพี่คนนั้นมีผลประโยชน์กับคลาสไหม? เป็น affiliate หรือแค่แชร์ประสบการณ์จริง?”
• “คลาสนี้คือของจริง ไม่เหมือนคลาสอื่น”  “อะไรคือของจริง? ต้องวัดด้วยอะไร มากกว่าความรู้สึกหรือคำพูด”
• “พี่ๆ ในกลุ่มนี้ใจดีมาก ให้คำแนะนำฟรีหมดเลย”  “แนะนำเพื่อช่วยจริง หรือเพื่อปูทางให้เราไปจบที่คอร์สของเขา?”
• “มีแค่คลาสนี้ที่รุ่นพี่เราจบมาแล้วได้งานทันที” “ทันทีจริงไหม? หรือแค่บางคน? ต้องฟังมุมที่ไม่สำเร็จด้วย”
• “รีวิวในกลุ่มนี้ล้วนแต่บอกว่าดี” “กลุ่มที่ดีต้องเปิดพื้นที่ให้คำถาม ไม่ใช่แค่คำชม”
• “ถามอะไรก็ตอบเร็ว มีคนช่วยตลอด” “บางครั้งการตอบไวคือการควบคุม narrative ไม่ใช่เพราะมีคุณภาพจริง”
• “อย่าหลงคลาสอื่นที่ไม่มี connection แบบเรา”“connection แท้จริงวัดจากอะไร? ความช่วยเหลือ หรือแค่ชื่อร้าน?”
• “ใครไม่อยู่กลุ่มนี้อาจตัดสินใจพลาดนะ” “ความกลัวการตกขบวน (FOMO) มักถูกใช้เพื่อ เร่งตัดสินใจ ไม่ใช่เสมอว่า ‘กลุ่มนี้ดีที่สุด'”

🚫กลยุทธ์ “ต้องไปเรียนที่ออสถึงจะได้งาน”
                   (แฝงในโฆษณาจากบางเอเจนซี่)

• “เรียนที่ออส = ได้ฝึกงานจริงแน่นอน”“ได้ฝึกแต่ไม่ได้แปลว่าได้โอกาสดี ถ้าไม่ได้ฝึก จริงจัง หรือร้านเน้นใช้แรงงาน”
• “ถ้าเรียนในไทยยังไงก็สู้คนเรียนที่ออสไม่ได้” “อย่าลืมว่าในออสก็มีคลาสขายฝันเหมือนกัน สำคัญคือคุณภาพ ไม่ใช่แค่โลเคชั่น”
•  “มี Certificate จากออส โอกาสเยอะกว่า” “หลายร้านในออสไม่ได้ดูใบ แต่อยากดูมือความเร็ว และ workflow”
• “เรียนในออสคือการเริ่มต้นที่ถูกต้อง” “ถูกต้องหรือแพงโดยไม่จำเป็น? ถ้าเรียนในไทยให้แม่นแล้วไปสอบจริงจัง บางทีก็ประหยัดเวลา
  และเงินกว่า”
• “อยู่ในออสได้สัมผัสร้านจริงมากกว่า “ถ้าไปแบบยังไม่มีสกิล โอกาสสัมผัสอาจ แค่ล้างแก้ว คอยเสิร์ฟ ไม่ได้ฝึกทำกาแฟจริง”
• “ฝึกกับร้านออสของแท้ในคอร์สเรา” “ร้านของแท้แบบไหน? Specialty จริง หรือร้านทั่วไป?ลองเช็กชื่อร้านก่อนตัดสินใจ”
• “มาเรียนในออสแล้วค่อยหางานเลยก็ได้” “การไม่มีพื้นฐานมาก่อน อาจทำให้หางานนานขึ้น และเสียค่าครองชีพหลายแสนบาท”

🚫กลยุทธ์ “กดดันแบบอ้อมๆ
    ให้รู้สึกพลาด”

• “มีนักเรียนจากที่อื่นมาเรียนซ้ำกับเรา เพราะของเก่าไม่เวิร์ก”“เขาอาจยังไม่พร้อมเอง หรือระบบเดิมไม่ดี?ต้องถามว่ามีอะไรที่ต่างจริง”
• “ใครเรียนกับเราจะเข้าใจว่าคลาสอื่นสอนง่ายเกินไป” “คำพูดนี้ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ลองดูว่าเราฝึกหนักจริงไหมก่อนเชื่อ”
• “แค่เรียน latte art ยังไม่พอ ต้องรู้ speed bar ด้วย” “ถูกต้องค่ะ…แต่ถ้าคลาสนี้ก็ยังไม่ได้ฝึก workflow จริง ก็ยังไม่พออยู่ดี”
• “เรามีเน็ตเวิร์คครอบคลุมทั้งเมลเบิร์นและซิดนีย์” “เน็ตเวิร์คมีจริง = ได้งานจริงไหม? หรือแค่รู้จักกันเฉยๆ”
• “ราคานี้เทียบไม่ได้กับประสบการณ์ที่คุณจะได้” “คำว่า ‘ประสบการณ์’ ต้องดูว่าใช้งานจริงได้หรือ แค่รู้สึกดีตอนเรียน”
• “ไม่กล้าเสี่ยง คุณอาจพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต” “ฟังดูเหมือนขายประกัน…โอกาสที่ดีจริง ไม่ควรอาศัยแค่ความกลัว แต่ต้องมีข้อมูล”
• “กล้าฝัน แล้วมันจะเกิดขึ้นจริง” “กล้าฝันดีค่ะ แต่ต้องมีแผน และความจริง รองรับ ไม่ใช่แค่เชื่อแล้วจะได้”

จิตวิทยาขายฝัน

🚫เทคนิคกลุ่มที่ 1:
จิตวิทยา: ใช้ “Echo Chamber”

ทำให้คนใหม่เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่คิดเหมือนกันทั้งที่
เป็นแค่การจัดฉาก การตั้งส่วนตัว “กลุ่มปั่น”
สร้าง safe zone ปลอม

1. สร้างกลุ่มไลน์ / Facebook Group ปิด ที่ควบคุม
เนื้อหาได้หมด
2. โพสต์แต่เรื่องดี ๆ ไม่มีเสียงค้าน admin คุมเกมส์
3. มีแต่รีวิวเชิงบวกเกินจริง ไม่มีใครเล่าเรื่องล้มเหลว
4. ถามอะไรก็มีคนมาช่วยเป็นระยะ “ให้ตัดสินใจเร็ว”
5. ใช้คำพูดเหมือนกันไปทางเดียวกัน เช่น “รีบจองเลย
ไม่ผิดหวังแน่นอน inbox มา คนขายรีบมาตอบเอง
6. คนที่ตั้งคำถามจริงจังมักโดนลบ/ออกกลุ่ม/ว่าเป็นหน้า
ม้าทั้งที่พูดจริง ถามจริง
7. เห็นโพสต์คล้ายๆ กันซ้ำหลายคน แต่ใช้คำพูดแนว
เดียวกันหมด แป๊บๆ มาแต่โพสหาคนมาร่วม event

🚫เทคนิคกลุ่มที่ 2: จิตวิทยา: ใช้
“Social Proof ปลอม”

สร้างแรงจูงใจทางสังคม ให้คนอื่นคล้อยตามง่าย ไม่ต้องคิด ใช้ “หน้าม้าอวย” ในรีวิว  คอมเมนต์ /ในกลุ่ม online

8. คนรีวิวมี profile ไม่มีข้อมูลจริง เช่น กลุ่มไม่ระบุตัวตน
9. คอมเมนต์แนว“ฉันก็ได้งานแล้วดีมาก”ไม่มีรายละเอียด
10. ใช้ภาษาซ้ำๆ เหมือนเขียนโดยคนเดียวเช่น “คุณครูน่า
รักมาก เหมือนครอบครัว ทุกคนเก่ง” เห็นได้งานหมด
11. ถามลึกๆว่าได้งานร้านไหน/ เมืองไหนตอบเลี่ยงคราวๆ
12. แชร์โพสต์โรงเรียนซ้ำๆ ดูชิวๆ แต่ไม่เคยมีฝึกจริงจัง
13.เวลามีคนสตใจเรียนที่อื่นจะรีบมีดราม่าและอวยอีกที่
14. มีแต่คนตอบอวย ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามเชิงลึก

🚫เทคนิคกลุ่มที่ 3: จิตวิทยา:
ใช้ “อีเวนต์สร้างภาพ”

ให้คนรู้สึกว่านี่คือที่ในฝัน ทั้งที่เนื้อหาจริงๆ ยังไม่มี
Solf power+FOMO ( Fear of Missing Out) &Scarcity

การสร้างคำสวยหรูจาก “Event ล่อฝัน” ลักษณะคือ บ่อยจัดงานใหญ่โตบ่อยๆ จัดกันทุกเดือน เชิญ “พี่ๆ ที่ได้งานแล้ว” มาแชร์แต่เลี่ยงคำถามสำคัญ ทำอีเวนต์มีแจกของแจกทุนแจกคูปองเพื่อให้คนแห่เข้า ไม่มีการโชว์วิธีฝึก หรือ simulate ทำยุ่งๆ เหมือนจริงๆ ในออสให้ดู ไม่คุยปัญหา สถิติความล้มเหลว สร้างบรรยากาศแบบ “จงเชื่อว่าเราจะพาไปได้”ลอยๆ ถ่ายภาพ + ตัดต่อวิดีโอให้ดูอบอุ่น น่ารัก มีความสุขละมุนละไม อัดคลิป Pr ยิง App โพสตามกลุ่มต่างๆ

ที่น่าเจอกันบ่อยๆ

🚫1.แนวตั้งกลุ่มไลน์

ที่ admin เป็นคนควบคุมเนื้อหา + แฝงการขายคอร์สซ้ำหลายรอบ มีหน้าม้าคอยอวยแบบเดิม ๆ ตลอด เช่น “พี่ช่วยหางานให้แน่นอนค่ะ / พี่บอกทุกขั้นตอนเลย” ถ้าใครถามเรื่อง ทำไมได้งานช้ากว่าที่โฆษณาไว้ หรือ ถามว่าครูมีประสบการณ์ทำจริงไหม มักไม่มีใครตอบ หรือโดน ignore มีคอมเมนต์แนว “พี่ ๆ ที่นี่ใจดีที่สุดในโลก” ทุกโพสต์ (คำเดิมเป๊ะ)  ใช้จิตวิทยา: “สร้างภาวะครอบงำ” ให้กลุ่มกลายเป็น Safe Zone ปลอมที่ไม่มีใครกล้าคิดต่าง

🚫2.แนวใช้หน้าม้าอวย

ในหลายกลุ่มกาแฟ เช่น “ที่นี่ราคาถูก เรียนแล้วบินได้เลย” ชอบปั่นรีวิวว่า “จบแล้วได้งานเร็วมาก” แต่ไม่เคยมีภาพการฝึกจริง หรือบอกว่าได้งานร้านไหน เวลามีใครมาเล่าว่า “เรียนแล้วไม่มีอะไรใหม่เลย” ก็จะมีเพื่อนของเพจมาตอบโต้แทน admin ปั่นดราม่าโรงเรียนอื่นผ่านindirect content เช่น TikTok, comment แฝง  จิตวิทยา: ใช้ “รีวิวชี้นำ” + “การปกป้องแบบจัดฉาก” เพื่อบิดเบือนมุมมองของนักเรียนใหม่

🚫3.ใช้ภาพถ่ายแนว
“life coach – mentor”

***ยังไงก็ต้องพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง***

ประเทศเรามี!

เมื่อคลาสที่ดีที่สุด…มาตลอด 10 ปี
กลายเป็นแย่ที่สุดในวันเดียว?

Tigerjin ดราม่าเยอะไม่ดี…. หรือ?
Tigerjin ดังและทำดีเกินไปหรือปล่าว

เรื่องจริงมันเป็นแบบนี้

😰 การตลาดสกปรก

เริ่มต้นด้วย “คำโกหกที่หวานที่สุด” ใช้หน้าม้าไม่ระบุตัวตน ใส่ความ Tigerjin ว่าไม่ดีบิดเบือนกลุ่มแชร์ความรู้ เช่น open chat ที่ทุกคนคิดว่าเป็นส่วนกลาง ชื่อ I wanna be bar..(2023) ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น  Bre…Club (2025) หลายคนไม่รู้เลยว่าโดนปั่นเนียนๆ ทั้งกลุ่มแกล้งเป็น “กลาง” เสกเรื่องเท็จให้คนเชื่อ ว่าอาจารย์ไม่ใส่ใจ ทั้งที่ Tigerjin ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดูแลนักเรียน บราบราบรา ส่งสปายมาเรียน ลอกสอนทุกอย่าง แต่ก็ลอกได้แค่ “เปลือก” เพราะ “ของจริง” ต้องใช้หัวใจ ประสบการณ์ และความทุ่มเท ไม่ใช่สคริปต์

💎 Tigerjin Original ของจริง
ไม่ต้องอวย ไม่ต้องอวด

💔  เราไม่เคยตอบโต้ด้วยคำพูดแต่เลือกพิสูจน์ตัว

ด้วย“ผลลัพธ์” พระเอกนอกจอตัวจริง…แม้จะเจอช่วงยากที่สุดในปี 2022–2023 แม้จะมีคนหลงเชื่อคำลวงจากรีวิวหน้าม้า แต่ Tigerjin ก็ยังมี “นักเรียนตัวจริง” ที่ได้งานจริงเป็นร้อยคนในร้านคุณภาพทั่วออสเตรเลีย  ใครตั้งใจมาเรียน ย่อมเห็นภาพชัดเจนทันที ที่นี่คือคลาสที่ “ครูช่วยคุณมากกว่าที่คุณคาดคิด” บรรยากาศสนุก เฮฮา จริงใจ อาจารย์เคยทุ่มเทสอนจนเจ็บขาเดินไม่ได้ เพราะอยากให้ทุกคน “ได้งาน” จริงๆ และนั่นคือสิ่งที่ไม่มีโรงเรียนไหนก็อปปี้ได้   

💔 ตอนนี้พลังของการบอกปากต่อปาก

และศิษย์เก่าที่เพิ่งทราบข่าวกำลังกลับมา รวมตัวกันอย่างสวยงาม เพราะพวกเขาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองแล้วว่า “ข่าวลือไม่ใช่ความจริง”และเขากล้าบอกต่อด้วยหัวใจว่า Tigerjin คือของจริง  อย่าตัดสินจากสิ่งที่ได้ยิน — จนกว่าคุณจะได้มาดูเอง” และเมื่อคุณได้เห็น  คุณจะรู้ว่า Tigerjin ไม่ใช่แค่โรงเรียน แต่คือพื้นที่ของคนที่อยาก ‘รอด’ และ ‘รุ่ง’ ในออสเตรเลีย

#Tigerjinของจริงไม่ต้องแกล้งดี
#เพชรแท้ย่อมถูกลองด้วยไฟ
#ไม่ใช่คลาสขายฝัน แต่คือคลาสที่ฝึกให้ฝันเป็นจริง
#กลับมาอย่างสง่างามในเวอร์ชันที่แกร่งขึ้นทุกวัน